เมนู

‘‘อิธ ปน ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสฺมีติ โข เม วิคตํ [วิคเต (สฺยา.)], อยมหมสฺมีติ จ [อยํ จกาโร ที. นิ. 3.326 นตฺถิ] น สมนุปสฺสามิ; อถ จ ปน เม วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺฐตี’ติฯ โส ‘มา เหว’นฺติสฺส วจนีโย – ‘มายสฺมา, เอวํ อวจ; มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺยฯ อฏฺฐานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ อสฺมีติ วิคเต อยมหมสฺมีติ จ น สมนุปสฺสโต; อถ จ ปนสฺส วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ นิสฺสรณญฺเหตํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลสฺส ยทิทํ อสฺมีติ มานสมุคฺฆาโต’ติฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย’’ติฯ ตติยํฯ

4. ภทฺทกสุตฺตํ

[14] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํฯ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ตถา ตถา, อาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยา [กาลํกิริยา (ก.) อ. นิ. 3.110]ฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยา?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, ภสฺสาราโม โหติ ภสฺสรโต ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต, นิทฺทาราโม โหติ นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต, สงฺคณิการาโม โหติ สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, สํสคฺคาราโม โหติ สํสคฺครโต สํสคฺคารามตํ อนุยุตฺโต, ปปญฺจาราโม โหติ ปปญฺจรโต ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต น ภทฺทกํ มรณํ โหติ, น ภทฺทิกา กาลกิริยาฯ อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ สกฺกายาภิรโต นปฺปชหาสิ [น ปหาสิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย’’’ฯ

‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยาฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยา?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ น กมฺมรโต น กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, น ภสฺสาราโม โหติ น ภสฺสรโต น ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต, น นิทฺทาราโม โหติ น นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต, น สงฺคณิการาโม โหติ น สงฺคณิกรโต น สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, น สํสคฺคาราโม โหติ น สํสคฺครโต น สํสคฺคารามตํ อนุยุตฺโต, น ปปญฺจาราโม โหติ น ปปญฺจรโต น ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยาฯ อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ นิพฺพานาภิรโต ปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’’ติฯ

‘‘โย ปปญฺจมนุยุตฺโต, ปปญฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํฯ

‘‘โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปญฺจปเท รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติฯ จตุตฺถํ;

5. อนุตปฺปิยสุตฺตํ

[15] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, ภสฺสาราโม โหติ…เป.… นิทฺทาราโม โหติ… สงฺคณิการาโม โหติ… สํสคฺคาราโม โหติ… ปปญฺจาราโม โหติ ปปญฺจรโต ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ